หมวดหมู่: เคล็ดลับทั่วไป

ศัลยกรรมพลาสติก

เรื่องควรรู้ก่อนเสริมความงาม ด้วยศัลยกรรมพลาสติก

ศัลยกรรมเสริมความงามมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ศัลยกรรมพลาสติกเป็นวิธีการแก้ปัญหาขจัดข้อบกพร่องในร่างกายเพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์ให้ดูดี หลายคนไม่พอใจกับรูปลักษณ์ของตัวเองเมื่อได้เปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาทำให้มีความสุขมากขึ้น หรือแก้ไขความผิดปกติอื่น ๆ ทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติมากขึ้นด้วย

การทำศัลยกรรมในต่างประเทศกำลังเป็นที่นิยม โดยเฉพาะโรงพยาบาลหรือคลินิกในประเทศกำลังพัฒนาจะได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้น ๆ เพราะการรักษามีราคาไม่แพง รวดเร็วทันใจ และยังมีคุณภาพได้มาตรฐานอีกด้วย ปัจจุบันประเทศปลายทางที่คนทั่วโลกนิยมเดินทางไปทำศัลยกรรมมากที่สุดมี

  • อินเดีย เหตุผลที่อินเดียมาเป็นที่หนึ่งเพราะราคาถูกกว่าที่อื่น โรงพยาบาลชั้นนำของอินเดียมีมาตรฐาน จำนวนแพทย์ด้านศัลยแพทย์ความงามในอินเดียมีมากถึง 5,000 คน ที่ผ่านการรับรองและกระบวนการฝึกอบรมที่เข้มงวด ก่อนไปใช้บริการควรศึกษาข้อมูลจากศัลยแพทย์ที่ผ่านการรับรองเพื่อให้ผลการทำศัลยกรรมออกมาดีอย่างไร้ที่ติ
  • เม็กซิโก เป็นอีกประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการทำศัลยกรรมพลาสติกที่ทันสมัย ศัลยแพทย์มีชื่อเสียงได้รับการรับรอง การผ่าตัดปลอดภัยและราคาไม่แพง หลังการผ่าตัดมีบริการห้องพักฟื้นหรูหราในสภาพแวดล้อมแบบรีสอร์ท
  • เกาหลีใต้ จุดแข็งของเกาหลีใต้คือความเป็นมืออาชีพ คนไข้เลือกศัลยแพทย์และราคาได้ตามต้องการ รายการยอดนิยมคือการเสริมเต้านม ศัลยกรรมใบหน้าใหม่ และการผ่าตัดด้วยเลเซอร์ นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์มาใช้ในการเสริมความงามทุกประเภทเพื่อลดโอกาสในการติดเชื้อและลดโอกาสติดเชื้อระหว่างผ่าตัดด้วย
  • ไทย แน่นอนว่าประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งปลายทางยอดนิยมของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฝีมือแพทย์ไทยมีคุณภาพระดับโลกในราคาที่จับต้องได้ โรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่งมีอุปกรณ์ทันสมัยและเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูง มีสิ่งอำนวยความสะดวกรวมถึงบริการห้องพักฟื้นดีเยี่ยม ราคาไม่แพง พร้อมต้อนรับลูกค้าอย่างเต็มที่
  • ตุรกี มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าในประเทศอื่นมาก คลินิกศัลยกรรมตกแต่งและโรงพยาบาลผ่านการรับรองและได้รับการตรวจสอบโดยสมาคมทางการแพทย์ของตุรกี ถ้าจะไปใช้บริการต้องตรวจสอบมาตรฐานของศัลยแพทย์และคลินิกแต่ละแห่งให้ดีก่อนว่าผ่านการรับรองจริง

ไม่ได้ทำเพื่อตกแต่งเสริมความงามเท่านั้น แต่ยังรักษาภาวะแทรกซ้อนที่ส่งผลต่อสุขภาพด้วย เช่น การศัลยกรรมตกแต่งบาดแผลจากไฟไหม้ การยกกระชับหน้าอกเพื่อให้นมลูกสะดวกขึ้น การตกแต่งแผลจากการผ่าตัดเนื้องอก การปลูกถ่ายอวัยวะที่ตัดไปจากร่างกาย ศัลยกรรมพลาสติกในเด็กที่เป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ศัลยกรรมมือและเส้นประสาท เป็นต้น

ไม่ได้ทำเพื่อเปลี่ยนตัวเองจากคนปกติให้สวยขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยแก้ไขความพิการของคนที่ทุกข์ทรมานจากความผิดปกติของใบหน้าหรือร่างกายเพื่อเสริมบุคลิกภาพให้ดีขึ้นและมีส่วนให้ชีวิตดีขึ้นด้วย การทำศัลกรรมนั้น ไม่มุมผู้ชายอาจมองว่าสิ้นเปลืองงบ ซึ่งก็ไม่ต่างจากการที่เหล่าหนุ่มสายเลือดบอลรองวันนี้ทั้งหลายชอบลงทุนกันและผู้หญิงก็มองว่าเปลืองเงินไปกับฟุตบอลเปล่าๆแบบไร้ประโยชน์เช่นกัน

บอกลาปัญหามือแห้งเล็บเปราะเพราะล้างมือบ่อย

บอกลาปัญหามือแห้งเล็บเปราะเพราะล้างมือบ่อย

การล้างมือบ่อย ๆ เป็นเรื่องจำเป็นเพื่อช่วยควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ปัญหามือแห้งเล็บเปราะแตกล้างเป็นเรื่องปกติ สาว ๆ รู้สึกกังวลที่ผิวหนังบนมือแห้งมาก หยิบจับอะไรก็รู้สึกระคายเคือง ถึงเวลาเยียวยากู้ผิวพัง มือและเล็บสวยและเนียนนุ่มชุ่มชื้นจนใคร ๆ ได้จับมือแล้วไม่อยากปล่อยเลยทีเดียว เมื่อรู้สาเหตุตั้งแต่แรกแล้วการเยียวยามือแห้งกร้านก็ทำได้ง่าย มีวิธีดี ๆ มาฝากกันดังนี้

ล้างมือบ่อยไม่ว่าจะล้างด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ส่งผลกระทบต่อผิวหนังทำให้ผิวแห้งแตก ลอกเป็นขุย ผิวแดง ปวดคัน ทำให้แบคทีเรียเข้ามาในร่างกายของเราได้ หนังกำพร้าชั้นนอกสุดมีโปรตีนและไขมันเป็นเกราะป้องกันผิวหนัง หากล้างมือมากเกินไป น้ำมันธรรมชาติจะถูกชะล้างออกไปทำให้ผิวแห้ง ผิวแตก คนที่เป็นโรคผิวหนัง ผื่น กลาก และภูมิแพ้อยู่แล้วจะมีอาการหนักขึ้น เป็นผื่นแดงและคัน รู้สึกไม่สบายตัว

ในเมื่อเราจำเป็นต้องล้างมือให้ปลอดภัยจากเชื้อโรค ควรล้างมืออย่างไรไม่ให้ผิวแห้ง สิ่งแรกคือการเลือกผลิตภัณฑ์ล้างมือใช้สบู่อ่อนสูตรสำหรับผิวบอบบางและแพ้ง่าย ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือสารเคมีที่ระคายเคืองต่อผิวหนัง ใช้สบู่หรือเจลล้างมือปริมาณพอเหมาะ ไม่ต้องล้างให้มีฟองมากจนทำลายน้ำมันบนผิวหนัง ล้างมือด้วยน้ำเย็นจากนั้นใช้ผ้าซับมือให้แห้งแล้วทาครีมบำรุงผิวทันที แนะนำให้เลือกครีมและขี้ผึ้งที่มีความเข้มข้นและติดทนดีกว่าโลชั่น รวมทั้งปิโตรเลียมเจลที่เคลือบผิวได้ดีมาก ควรพกครีมทามือติดตัวไว้เสมอ ล้างมือเมื่อไรใช้ครีมทามือทันที สำหรับเจลทำความสะอาดมือที่มีแอลกอฮอล์อาจระคายเคืองผิวหนังและทำให้ผิวแห้งมาก 

ผิวพรรณที่ดูดีเกิดจากการดูแลอย่างเหมาะสม ในเมื่อเลี่ยงการล้างมือบ่อยไม่ได้ ยังมีวิธีการฟื้นบำรุงผิวเพื่อให้ชุ่มชื้นโดยทาครีมบำรุงคืนความนุ่มนวลกลับเข้าสู่ผิวทุกครั้งหลังล้างมือ ก่อนเข้านอนให้ทาครีมชนิดเข้มข้นแล้วสวมถุงมือผ้าฝ้ายทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก เพื่อให้เนื้อครีมซึมเข้าผิวหนัง เทียบเท่ากับการมาสก์มือ ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นอย่างมากและเนียนนุ่มขึ้น ในเวลากลางคืนอาจทาโลชั่นหรือมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้นและสวมถุงมือตลอดคืนเพื่อให้มอยส์เจอไรเซอร์ซึมซับเข้าสู่ผิวอย่างเต็มที่ ถุงมือช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ ตื่นมาจะรู้สึกว่ามือเนียนนุ่มน่าสัมผัสยิ่งขึ้น

วิธีป้องกันผิวแห้งอีกวิธีคือสวมถุงมือก่อนล้างจานช่วยป้องกันไม่ให้น้ำทำลายน้ำมันธรรมชาติบนผิวหนัง หากผิวหนังแตกหรือผิวลอกรุนแรงอาจต้องใช้ยาทาผิวหนังหรือยากินเพื่อลดอาการผิวแห้ง นอกจากนี้ควรลดปริมาณการดื่มชาและกาแฟ เนื่องจากเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีนเป็นตัวการขับน้ำออกจากร่างกาย ทำให้ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้นมากกว่าเดิม พร้อมกันนี้ควรดื่มน้ำเปล่ามากขึ้นเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง

เสริมความงามจากภายในสู่ภายนอก

เสริมความงามจากภายในสู่ภายนอก

หากจะพูดถึงองค์ประกอบของความงามของผู้หญิง นอกจากรูปร่างหน้าตา การแต่งหน้าและเสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมใส่แล้ว ความงามจากกิริยามารยาทก็ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่จะทำให้ผู้หญิงคนนั้นดูงามพร้อมไปหมดทุกอณู

ในส่วนของความงามที่มองเห็นได้ด้วยสายตา ผู้หญิงสามารถแต่งแต้มอย่างไรก็ได้ให้ดูดี ไม่ว่าจะด้วยเครื่องสำอาง การแต่งหน้า ทำผม รวมไปถึงการเลือกใช้เสื้อผ้าที่ทำให้ดูดีมีความโดดเด่น แต่หากจะให้เกิดความงามสมบูรณ์สมแก่การชื่นชมจริง ๆ ควรเสริมสร้างความงามจากภายในให้เปล่งประกายสู่ภายนอกด้วย จึงจะดี

อะไรบ้างคือการเสริมความงดงามจากภายในสู่ภายนอก

1. ฝึกเป็นคนคิดบวก

การหัดเป็นคนมองโลกในแง่ดี ฝึกคิดบวกเข้าไว้ จะช่วยให้เป็นคนที่สดใสไม่โกรธง่าย รัศมีแห่งความเป็นมิตรจะแผ่ออกไปให้คนรอบข้างรู้สึกได้

2. หัดออกกำลังกาย ทานอาหารที่เป็นประโยชน์

เรื่องของร่างกายมิใช่จะมีแต่ผิวพรรณภายนอกที่ต้องหมั่นดูแล ความงดงามจากความแข็งแรงอันเกิดจากการดูแลสุขภาพภายในก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ร่างกายภายนอกดูดี

3. ยิ้มให้เก่ง อารมณ์ดี

รอยยิ้มที่ถ่ายทอดออกมาจากจิตใจจริง ๆ เป็นหนึ่งในความงามที่มีต้นทุนน้อยแต่สร้างคุณค่าได้มากที่สุด เวลาที่เราพบคนยิ้มให้เราย่อมรู้สึกดี และประทับใจต่อคน ๆ นั้น ดังนั้นการส่งยิ้มพิมพ์ใจให้กับคนรอบข้างอย่างเป็นธรรมชาติจะช่วยสร้างบรรยากาศดี ๆ ให้เกิดขึ้นรอบตัวเราอยู่เสมอ

4. พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับคือการทำให้ร่างกายได้มีเวลาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ดังนั้นการนอนหลับให้สนิทเต็มอิ่มจะช่วยสร้างความสดชื่นสดใสในแต่ละวันให้เกิดขึ้น ดังจะเห็นได้ว่าคนที่นอนน้อยร่างกายมักจะทรุดโทรมกว่าคนที่นอนหลับได้เพียงพอ

5. ฝึกสมาธิช่วยได้

ชีวิตประจำวันอาจทำให้เกิดความเครียดสะสม การหาเวลาฝึกการทำสมาธิเสียบ้างจะช่วยปัดกวาดเรื่องราวที่เข้ามารบกวนจิตใจในแต่ละวัน เป็นการจัดระเบียบความคิดเสียใหม่ เมื่อจิตใจสงบการแสดงออกผ่านหน้าตา ท่าทางก็จะดีไปด้วย

6. สะสมความรู้สู่ความงามสง่า

ความสวยแต่เพียงร่างกายอย่างเดียว ไม่ถือว่าเป็นความงามโดยสมบูรณ์ คนที่จะงดงามสมบูรณ์แบบได้นั้น ต้องเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถประกอบด้วย จึงจะเรียกได้ว่าเป็นคนสวยทั้งร่างกายและสมอง

การที่คนเรารู้จักเสริมสร้างความงามทั้งจากภายนอกและภายใน จึงจะเรียกได้ว่าเป็นการสร้างความงามที่เพียบพร้อม เป็นความงดงามที่ยั่งยืน เปรียบเสมือนการใช้มือสองข้างปั้นรูป ย่อมสวยงามกว่าการใช้มือข้างเดียวปั้นอย่างแน่นอน

เคล็ดลับผลิตภัณฑ์ความงามที่ผู้หญิงทุกคนควรรู้

เคล็ดลับผลิตภัณฑ์ความงามที่ผู้หญิงทุกคนควรรู้

ผู้หญิงส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความสวยความงาม แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกเป็นเพียงส่วนหนึ่งของตัวเรา แต่ความงามทำให้รู้สึกดีกับตัวเองและเกิดความมั่นใจมากขึ้น การดูแลตัวเองให้สวยเริ่มต้นจากสุขภาพดีและความสะอาดซึ่งไม่ได้ซับซ้อนเสียเวลาหรือมีราคาแพงเลย เราเลือกเคล็ดลับพื้นฐานที่ผู้หญิงทุกคนควรรู้มาแนะนำกันดังนี้

1.เลือกมอยส์เจอไรเซอร์คุณภาพดี
เคล็ดลับข้อแรกคือใช้มอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำ ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนต่อผิว ก่อนบำรุงผิวนุ่มชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอไรเซอร์คุณภาพดี ไม่ว่าผิวของคุณจะแห้ง ปกติ หรือแม้แต่ผิวมัน สาว ๆ ช่วงอายุ 20-30 ปีควรเน้นการใช้มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวเพิ่มความชุ่มชื้นและอิ่มน้ำ ผิวสดใสแลดูอ่อนเยาว์ ช่วยปกป้องผิวไม่ให้แก่ก่อนวัย ทุกริ้วรอยบนใบหน้าดูจางลง พิจารณามอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว หากผิวธรรมดาเหมาะกับมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีกรดอัลฟาไฮดรอกซีช่วยกระตุ้นให้ผิวผลิตความชื้นมากขึ้น ผิวแห้งเหมาะกับมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีไฮยาลูรอนิกและเซราไมด์ช่วยให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นดีขึ้น ผิวมันเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบาและไม่มีน้ำมันเพื่อลดปัญหาสิว

2.ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ
ครีมกันแดดเป็นเคล็ดลับต่อต้านริ้วรอยที่ดีที่สุด แสงแดดส่งผลต่อการผลิตคอลลาเจนในผิวหนัง ทาครีมกันแดดเป็นประจำช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อวบอิ่ม ดูอ่อนเยาว์ ไร้ริ้วรอยตามธรรมชาติและลดความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง เปรียบเทียบกับสาว ๆ ที่ไม่ทาครีมกันแดดก่อนแต่งหน้าจะเห็นว่าผิวหนังเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ผิวหย่อนคล้อย รอยเหี่ยวย่นและร่องลึกเห็นชัดมากขึ้น ผิวดูหยาบกร้าน มองเห็นกระ จุดด่างดำ และเส้นเลือดขอดอีกด้วย แนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไปสามารถปกป้องผิวจากรังสีที่เป็นอันตราย หากทำงานกลางแจ้ง ผิวสัมผัสแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน ให้ทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ ชั่วโมงหรือสองชั่วโมง เลือกแป้งแต่งหน้าที่มีสารกันแดดด้วยจะช่วยเพิ่มการปกป้องเป็นพิเศษ

3.ไม่ล้างหน้าบ่อยเกินไป
เลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิวและใช้เท่าที่จำเป็น ไม่เกินวันละ 2 ครั้ง แม้จะมีผิวมันแต่การล้างหน้าวันละหลายครั้งเป็นการทำลายเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติและกระตุ้นต่อมน้ำมันให้ขับน้ำมันออกมามากขึ้น ยิ่งใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์รุนแรงยิ่งเป็นการทำร้ายผิวมากกว่าเดิม ผิวหนังจะแห้ง แตก ลอก คัน และเกิดการระคายเคืองจากการถูกแสงแดดโดยตรงง่ายขึ้น หากรู้สึกว่าหน้ามันระหว่างวันรู้สึกไม่มั่นใจ ควรเลือกใช้กระดาษซับมันแทน

4.เลือกอุปกรณ์แต่งหน้าที่นุ่มนวลอ่อนโยนต่อผิว
สาว ๆ ส่วนใหญ่ใส่ใจเลือกครีมกันแดดหรือรองพื้นที่ดีสุด อายแชโดว์ราคาแพงที่สุด แต่กลับละเลยเรื่องอุปกรณ์แต่งหน้าซึ่งมีความสำคัญไม่น้อย ถ้าเครื่องมือไม่เหมาะสม ขนแปรงเส้นแข็งบาดผิวเส้นขนหลุดง่าย หรือแม้แต่สีตก ทำให้เครื่องสำอางราคาแพงสูญเปล่าอย่างน่าเสียดาย ควรเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมในการใช้งาน มิเช่นนั้นแล้วประโยชน์ของเครื่องมือเหล่านั้นก็จะสูญเปล่า ควรเลือกขนแปรงนุ่มนวล ด้ามจับง่ายถนัดมือ แต่งหน้าได้ง่ายและเกลี่ยเครื่องสำอางให้กลมกลืนเข้ากันได้ดี ถือเป็นชุดแปรงดี ๆ ที่คุ้มค่าต่อการลงทุน

รวมเทคนิคแต่งหน้าอย่างไรให้ได้ลุคสายฝอสุดแซ่บ

รวมเทคนิคแต่งหน้าอย่างไรให้ได้ลุคสายฝอสุดแซ่บ

สาว ๆ คนไหนต้องการแต่งหน้าให้ได้ลุคสวยแซ่บ แนะนำให้บอกลาการแต่งหน้าสไตล์เกาหลีไปก่อน เพราะตัวเลือกที่จะเนรมิตใบหน้าให้สวยฟาด คือการแต่งหน้าแบบสายฝอที่เน้นความสวยคมชัด มอบลุคสายฝอสุดแซ่บ ตรงข้ามกับการแต่งหน้าสไตล์เกาหลีที่เน้นความเป็นธรรมชาติอย่างเห็นได้ชัด

แต่งหน้าอย่างไรให้ได้ลุคสวยแบบสายฝอ

  1. ผิวเนียนเรียบไร้ที่ติ
    เมื่อการแต่งหน้าสไตล์เกาหลีเน้นงานผิวฉ่ำวาวเป็นธรรมชาติ แต่บอกเลยว่าการแต่งหน้าฉบับสายฝอนั้นอยู่ฝั่งตรงข้าม เพราะเน้นปกปิดผิวให้เรียบเนียนไร้ที่ติ ดังนั้น รองพื้น คุชชั่น และคอนซีลเลอร์ จึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการอำพรางจุดบกพร่องบนใบหน้ารวมถึงบริเวณใต้ตา จะเลือกใช้ฟองน้ำหรือแปรงลงรองพื้นก็ได้ ขอให้ใบหน้าเนียนสวยไร้ที่ติก็พอ
  2. คิ้วสวยเป๊ะ
    บอกลาคิ้วตรงสไตล์เกาหลีไปก่อน เพราะลุคสายฝอต้องคิ้วโก่งคมกริบเท่านั้น โดยเฉพาะบริเวณหางคิ้วที่ต้องคมเข้มเป็นพิเศษ ส่วนบริเวณหัวคิ้วให้ทาบาง ๆ อย่าลืมจัดแต่งขนคิ้วให้เป็นทรงและเติมไฮไลท์บริเวณโหนกคิ้วเพื่อเพิ่มความเป๊ะ
  3. ดวงตาคมกริบ
    สิ่งสำคัญของการแต่งดวงตาแบบสายฝอคือให้ความสำคัญกับการคัดเบ้าตา เพื่อให้ดวงตาดูมีมิติและเซ็กซี่ โดยมีตัวช่วยสำคัญอย่างอายแชโดว์ จากนั้นนิยมกรีดอายไลเนอร์เพื่อให้ดวงตาคมกริบยิ่งขึ้น ก่อนจะปิดท้ายด้วยขนตาสวยสะพรึง จะเลือกปัดมาสคาร่าให้ขนตาดูหนาก็ได้ หรือจะเลือกใส่ขนตาปลอมก็ทำให้ได้ลุคโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นเช่นกัน
  4. ปัดแก้มโทนนู้ด
    แม้การแต่งหน้าสไตล์สายฝอจะเน้นความคมชัด แต่บอกเลยว่าการแต่งแก้มไม่นิยมปัดบลัชออนให้เข้มสักเท่าไหร่ เน้นปัดบาง ๆ ให้ดูสุขภาพดีและพอมีสีสันเท่านั้น โดยโทนสียอดนิยมคือโทนสีนู้ด เช่น สีส้มนู้ด สีส้มอมน้ำตาล สีชมพูนู้ด หรือโทนสีบ่มแดด ที่ได้รับความนิยมเอามาก ๆ
  5. ริมฝีปากอวบอิ่มคมชัด
    ปิดท้ายการแต่งหน้าสไตล์สายฝอให้สวยกระชากใจด้วยการออกแบบริมฝีปากให้คมชัดและดูอวบอิ่ม เทคนิคของสาวยุโรปคือมักวาดขอบปากให้ได้รูปด้วยดินสอเขียนขอบปาก จากนั้นจึงค่อยลงลิปสติกทั่วริมฝีปาก ส่วนใหญ่นิยมเลือกลิปสติกเนื้อแมทช์ที่ไม่แวววาวแต่ติดทนนาน เรียกได้ว่าทาครั้งเดียวแต่สวยนานตลอดวัน

ใครอยากเนรมิตใบหน้าให้สวยคมและเซ็กซี่ แนะนำให้แต่งหน้าลุคสายฝอ รับรองว่าจะมอบลุคสุดแซ่บจนหนุ่ม ๆ ต้องเหลียวมอง และเพราะการแต่งหน้าสไตล์นี้ค่อนข้างจัดเต็มเครื่องสำอางทุกส่วนบนใบหน้า เพราะฉะนั้นอย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำยาเช็ดเครื่องสำอาง เพื่อให้ใบหน้าสะอาดใสไร้ปัญหาผิวในอนาคต

ปัญหาความงามที่คนในวัย 30+ ต้องเผชิญคืออะไร

ปัญหาความงามที่คนในวัย 30+ ต้องเผชิญคืออะไร

เมื่อเข้าสู่วัย 30 ขึ้นไป เรื่องของความงาม ผิวพรรณ และรูปร่าง จะเริ่มเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เพราะช่วงวัย 30 + ถือว่าเป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลงจากวัยรุ่นสู่วัยกลางคนที่จะเปลี่ยนไปทั้งหมด แม้แต่อารมณ์ ความคิด และความรู้สึกบางอย่างก็จะเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นลองมาดูปัญหาความสวยงามที่มักเกิดขึ้นกับคนในวัย 30 ปีขึ้นไป ดังนี้

1.ผิวหยาบกร้านง่าย
ช่วงวัยหนุ่มสาวผิวพรรณจะอ่อนเยาว์ มีความเรียบลื่นเพราะด้วยความชุ่มชื้นและน้ำหล่อเลี้ยงผิวที่ยังคงมีความสมบูรณ์อยู่ ทั้งยังสามารถสร้างคอลลาเจนภายในร่างกายมาใช้งานได้อย่างเหมาะสม แต่เมื่อเข้าสู่วัย 30 ผิวจะเปลี่ยนจากความอ่อนเยาว์และความเนียนนุ่มสู่ความหยาบกร้านที่ง่ายขึ้นกว่าเดิม มีปัญหาผิวแห้งแตกและผิวหยาบจากสภาพอากาศที่ง่ายมากกว่าช่วงวัยรุ่น ดังนั้นปัญหานี้จึงถือว่าเป็นปัญหาความงามของคนในวัย 30+ ที่พบได้อย่างชัดเจนที่สุด

2.สิวกลับมาง่ายขึ้น
ปัญหาสิวขึ้นง่ายไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในช่วงวัยรุ่นเท่านั้น แต่จะกลับมาเกิดกับคนในวัย 30 ปีขึ้นไปอีกครั้ง ซึ่งบางคนอาจจะต้องเผชิญกับปัญหาสิวขึ้นเป็นจำนวนมากเหมือนในช่วงวัยรุ่น ที่สำคัญคือสิวที่เกิดมักจะเป็นสิวที่กำจัดได้ยาก เช่น สิวอุดตัน, สิวใต้ผิวหนัง และสิวอักเสบติดเชื้อขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดมาจากการทับถมของสิ่งสกปรกและการใช้สารเคมีต่าง ๆ บนใบหน้ามาเป็นระยะเวลายาวนาน

3.ผิวเสียง่าย
เมื่อเข้าสู่วัย 30+ ผิวจะเสียง่ายกว่าช่วงวัยรุ่นเป็นเท่าตัว ถ้าคุณเคยออกไปเผชิญแสงแดดและใช้เวลาไม่นานในการทำให้ผิวกลับสู่สีผิวเดิม แต่เมื่อคุณอายุ 30 ปีขึ้นไปและขาดการดูแลผิวแล้ว ถ้าต้องออกไปเผชิญแสงแดดในแบบเดียวกัน ผิวจะเสียได้ง่ายขึ้น กลับมาเป็นสีผิวเดิมได้ยาก ทั้งยังทิ้งร่องรอยของการอักเสบ ผิวไหม้ และปัญหาต่าง ๆ ที่ยากต่อการแก้ไขตามมา

4.การดูแลผิวยุ่งยากกว่าเดิม
สกินแคร์สำหรับผู้ที่อยู่ในวัย 30+ จะมีขั้นตอนที่เพิ่มมากกว่าวัยรุ่นเป็นเท่าตัว เพราะปัญหาผิวที่ถูกสะสมมายาวนาน ทั้งยังเผชิญกับสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง และสารเคมีจากทั้งงสกินแคร์กับเครื่องสำอางต่าง ๆ จึงทำให้ผิวเสียอย่างหนักหน่วง ทั้งยังสูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงผิวไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้นสกินแคร์ของคนในวัยนี้จึงมีหลายขั้นตอนและหลายตัวที่จะต้องใช้ร่วมกัน เพื่อทำให้ผิวยังคงสภาพที่ดูดีและมีความสมบูรณ์แบบอยู่เสมอ นอกจากนี้ผู้ดูแลผิวบางรายอาจจะต้องเข้าคลินิกความงาม หรือทำศัลยกรรมเพิ่มเติม เพื่อทำให้ผิวยังคงดูอ่อนเยาว์และกระชับ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ในช่วงวัยรุ่นแทบไม่มีให้เห็น ดังนั้นการดูแลผิวจึงเป็นไปอย่างยุ่งยากพอสมควร

ปัญหาความงาม ของคนในวัย 30+ ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่มีการให้ความรู้เรื่องการดูแลผิว สุขภาพ และรูปร่างกันมาอย่างยาวนาน เพื่อให้สุขภาพทั้งกายและใจ รวมไปถึงผิวพรรณของคนวัยนี้ยังคงดูดีอยู่เสมอ และไม่ทำให้ร่างกายทรุดโทรมลงเร็วจนเกินไปอีกด้วย

6 เทคนิคความงาม ที่คุณควรทำ เพื่อรักษาผิวสวยได้นานที่สุด

6 เทคนิคความงาม ที่คุณควรทำ เพื่อรักษาผิวสวยได้นานที่สุด

ความงามเป็นของคู่กันกับมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายต่างก็ต้องการมีผิวพรรณที่สวยสดใส มีความเรียบเนียน เพื่อเสริมให้บุคลิกดูดีมากยิ่งขึ้น ดังนั้นลองมาดู 6 เทคนิคเกี่ยวกับการดูแลตัวเองที่จะทำให้คุณรักษาผิวสวยไว้ได้นานที่สุด ดังนี้

1.ครีมกันแดดต้องมีเสมอ
ถ้าต้องการให้ความงามของผิวพรรณที่สดใสอยู่คู่กับคุณได้นานมากที่สุด ต้องใช้ครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านในช่วงเวลากลางวันเสมอ ดังนั้นครีมกันแดดจึงถือว่าเป็นไอเทมสกินแคร์ตัวสำคัญที่คุณจะต้องมีติดบ้าน ควรทาก่อนออกจากบ้านประมาณ 15-30 นาที และควรนำครีมกันแดดออกไปทาซ้ำเมื่อต้องออกแดดอยู่เสมอ จึงจะช่วยป้องกันผิวได้อย่างเต็มที่

2.ล้างหน้าแบบ Double cleanser
เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว สิ่งที่ควรทำมากที่สุดคือการล้างหน้าแบบ Double cleanser โดยเป็นการเช็ดทำความสะอาดใบหน้าด้วยคลีนซิ่งก่อน 1 รอบ เพื่อเป็นการกำจัดเครื่องสำอาง, ครีมกันแดด และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกจากใบหน้า ถือว่าเป็นขั้นตอนของการเคลียร์ผิว จากนั้นให้คุณล้างหน้าด้วย Cleanser ซ้ำอีก 1 ครั้ง จะช่วยขจัดสิ่งอุดตันต่าง ๆ และทำให้ผิวพร้อมรับการบำรุงในยามค่ำคืนได้ดีมากยิ่งขึ้น

3.มอยส์เจอร์ไรเซอร์สำคัญมาก
มอยส์เจอไรเซอร์เป็นอีกหนึ่งสกินแคร์สูตรสำคัญ แม้ว่าผู้ที่มีผิวมันมักจะมองว่ามอยเจอร์ไรเซอร์อาจทำให้รูขุมขนอุดตัน แต่ยุคนี้มีการผลิตตัวมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เป็นสูตรเนื้อโลชั่น สามารถทาได้ง่าย ซึมซาบเร็ว และมีความบางเบา แต่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีออกมาขายให้กับผู้ที่มีปัญหาเรื่องผิวมันและเป็นสิวง่าย ดังนั้นคุณจึงควรมีติดตัวไว้ เพื่อทำให้ผิวมีเกราะป้องกันที่ดีมากขึ้น

4.BHA และ AHA ต้องมี
BHA และ AHA จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไปได้อย่างหมดจด ลดการเกิดสิวอุดตัน สิวอักเสบ และช่วยทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงควรมีทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นี้ติดบ้านไว้ แต่ควรใช้แบบวันเว้นวันหรือสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเท่านั้น

5.มาสก์หน้าทุกวัน
สูตรลับความงามของสาวเกาหลี คือ การมาสก์หน้าทุกวัน เพื่อทำให้ผิวเนียนนุ่มและชุ่มชื้น เพราะมาสก์หน้าจะเป็นการผลักครีมบำรุงและสารที่มีประโยชน์ต่าง ๆ ลงสู่ผิวอย่างรวดเร็ว เป็นวิธีการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วนที่ช่วยป้องกันผิวจากสิ่งสกปรกและอันตรายต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

6.เลือกสกินแคร์ให้เหมาะสม
การเลือกสกินแคร์ใช้ทุกวันอย่างเหมาะสม โดยมีลำดับในการใช้ที่เหมาะกับทั้งผิวและเวลา เช่น ยามค่ำคืนคุณสามารถบำรุงผิวได้ด้วยหลากหลายผลิตภัณฑ์ แต่ในยามเช้าคุณควรใช้เพียงแค่มอยส์เจอไรเซอร์และครีมกันแดดเป็นหลัก เพื่อลดการอุดตันและทำให้ผิวได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่

ความงามจะอยู่คู่กับทั้งผู้หญิงและผู้ชายอยู่เสมอหากดูแลผิวพรรณอย่างถูกวิธี ซึ่งถ้าคุณสามารถเข้าใจวิธีการดูแลตัวเองได้มากขึ้น ย่อมทำให้ความสวยงามนี้อยู่กับคุณได้ยาวนานและช่วยเสริมให้บุคลิกของคุณดูดี มีความน่าเชื่อถือ และทำให้การใช้ชีวิตของคุณมีความสุขมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

จุดไหนบ้างที่คนนิยมทำศัลยกรรมความงาม

จุดไหนบ้างที่คนนิยมทำศัลยกรรมความงาม

การมีรูปลักษณ์ที่สวยงามมีผลอย่างยิ่งต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตและการเข้าสังคม ทั้งยังสามารถต่อยอดการประกอบอาชีพที่มีรายได้ดีได้อย่างมากมาย เช่น อาชีพพรีเซ็นเตอร์สินค้า ยูทูปเบอร์ นางแบบ หรือ ทำงานที่ต้องพบปะกับผู้คน เช่น ประชาสัมพันธ์ พนักงานขาย ฯลฯ ความงามจะทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จในการงานยิ่งขึ้น

เรามาดูกันว่า คนไทยนิยมทำศัลยกรรมความงามในส่วนใดบ้าง

1.จมูก
โดยทั่วไปแล้ว คนไทยมักมีเนื้อปีกจมูกมาก สันจมูกมีรูปทรงค่อนข้างแบน การแก้ไขปัญหาเสริมความงามและความมั่นใจได้รวดเร็วและปลอดภัยที่สุดคือ การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนและการตัดปีกจมูกบางส่วนออก บางรายอาจมีการศัลยกรรมเพิ่มส่วนปลายจมูกให้แลดูงอนสะดุดตายิ่งขึ้น

2.ดวงตา
ดวงตาเป็นอวัยวะที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ การศัลยกรรมทำตาสองชั้น กรีดชั้นเปลือกตาเพื่อเอาไขมันส่วนเกินออก และด้วยเทคนิคแบบใหม่ จะสามารถทำให้ดวงตาดูกลมโต แลดูตาหวานยิ่งขึ้น การทำศัลยกรรมดวงตานับเป็นการผ่าตัดเล็กที่ใช้เวลาในการทำไม่นาน และมีอาการแทรกซ้อนน้อย

3.หน้าอก
การทำศัลยกรรมเพิ่มขนาดหน้าอกเป็นที่นิยมมาโดยตลอด ในปัจจุบันมีการผลิตซิลิโคนที่มีรูปทรงหลายแบบและมีหลายขนาด สามารถใช้ได้นานนับสิบปี ต่างจากในอดีตที่เป็นถุงน้ำเกลือ จึงมีคนที่ทำงานในทุกวงการมาศัลยกรรมหน้าอกมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในการสวมใส่เสื้อผ้าแบบต่าง ๆ

4.คางและกราม
การเสริมคางทำให้ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้น มีความงามมากขึ้น เช่นเดียวกับการเหลาส่วนกรามที่ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ จะเปลี่ยนรูปทรงใบหน้าได้ในเวลารวดเร็ว

5.ริมฝีปาก
ริมฝีปากที่อวบอิ่ม มีรูปทรงที่พอดีรับกับทรงใบหน้าและสันจมูก จะทำให้ใบหน้าดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ในปัจจุบันมีหลายเทคนิคที่นิยม เช่น การฉีดด้วยคอลลาเจน การผ่าตัดเย็บให้เป็นรูปกระจับ ฯลฯ

6.ดูดไขมันส่วนเกิน
หากใบหน้าสวย แต่รูปร่างอวบ หรือมีไขมันส่วนเกินเฉพาะส่วน ก็จะยังขาดความมั่นใจอยู่ การดูดไขมันจึงเป็นบริการศัลยกรรมที่ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยตำแหน่งที่นิยมดูดไขมัน ได้แก่ บริเวณหน้าท้อง ต้นแขน สะโพกและก้น ฯลฯ

7.ทำลักยิ้ม
เป็นการทำศัลยกรรมที่นิยมมากในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้ใบหน้า อาจทำลักยิ้มข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้

ที่กล่าวมา คือ จุดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการทำศัลยกรรมความงาม ซึ่งค่าบริการในแต่ละโรงพยาบาลหรือคลินิกจะแตกต่างกันไป ขึ้นกับความชำนาญของแพทย์และอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ก่อนทำศัลยกรรมความงามทุกครั้ง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเลือกทำในสถานที่ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ได้รับอนุญาตอย่างถูกกฎหมายจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ที่อาจเกิดตามมา

แจกเคล็ดลับความงาม 5 ข้อ ดูแลผิวหน้าอย่างไรให้ห่างไกลสิว

แจกเคล็ดลับความงาม 5 ข้อ ดูแลผิวหน้าอย่างไรให้ห่างไกลสิว

ใบหน้าถือเป็นอวัยวะที่สำคัญส่วนหนึ่งของร่างกายโดยเฉพาะเวลาพบปะใครต่อใคร อีกฝ่ายก็ต้องมองเห็นใบหน้าของเรามาก่อนเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะสาว ๆ นี่มักจะให้ความสำคัญกับผิวพรรณบนใบหน้าก่อนเรื่องอื่นใด ซึ่งศัตรูที่ร้ายกาจที่มักจะมาเยี่ยมเยียนใบหน้าของเราอยู่เสมอก็คือสิวนั่นเอง ซึ่งการอักเสบของรูขุมขนหรือต่อมไขมันนี้เป็นสิ่งที่ห้ามไม่ให้เกิดได้ยาก แต่สามารถดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ วันนี้เราจะมาแจกเคล็ดลับความงาม 5 ข้อในการดูแลผิวหน้าอย่างไรให้ห่างไกลสิวกัน มีอะไรบ้างไปดูกันเลย

1.การล้างหน้าให้สะอาด นับเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ง่ายที่สุดและทุกคนทำได้เพื่อให้ห่างไกลจากสิว แต่แค่ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดคงไม่เพียงพอที่จะกำจัดสิ่งสกปรกที่ฝังคราบอยู่บนใบหน้าได้ ดังนั้นเราควรรู้จักวิธีการล้างหน้าให้สะอาดหมดจดอย่างแท้จริง โดยก่อนการล้างหน้าให้ล้างมือให้สะอาดก่อน จากนั้นเริ่มล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำอุ่น ตามด้วยเจลหรือโฟมล้างหน้าที่เหมาะกับประเภทผิวของเราด้วยการนวดบนใบหน้าประมาณ 15 – 20 วินาที ก่อนล้างออกด้วยน้ำเปล่า แล้วเช็ดหน้าให้แห้งด้วยผ้าสะอาด

2.งดรับประทานอาหารที่มีรสจัดหรือไขมันสูง เนื่องอาหารที่มีรสเค็มจัดหรือหวานจัดเกินไปเป็นสาเหตุให้ระบบย่อยอาหารในร่างกายต้องทำงานหนัก หรืออาหารที่มีไขมันสูงก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ชั้นผิวหนังเกิดไขมันจึงเป็นสิว ดังนั้นควรแทนที่อาหารรสจัดหรือไขมันสูงด้วยโปรตีนหรือวิตามินที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวหนังจะดีที่สุด

3.ดูแลและรักษาความสะอาด เครื่องนุ่มห่มหรือของใช้ประจำวัน เช่น ปลอกหมอน หรือโทรศัพท์มือถือ เพื่อป้องกันไม่ให้ใบหน้าสัมผัสถูกสิ่งสกปรกจนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผิวหนังอักเสบจนกลายเป็นสิวอักเสบ

4.ความเครียด คือสาเหตุหลักที่สำคัญของการเกิดสิว นั่นก็เพราะความเครียดนับเป็นการรบกวนระบบการเผาผลาญในร่างกาย กระตุ้นการเกิดฮอร์โมนบางชนิดที่ส่งผลถึงต่อมไขมัน รวมถึงรบกวนต่อการนอนหลับ เมื่อสะสมความเครียดหนักเข้าย่อมเป็นสาเหตุที่กระตุ้นให้ผิวหนังเกิดการอักเสบได้ง่ายขึ้น

5.เลือกเฟ้นผลิตภัณฑ์ดูแลความงาม สำหรับสาว ๆ ที่รักการแต่งหน้าเพื่อความงามเป็นชีวิตจิตใจ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น Oil – Free หรือหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีหรือส่วนประกอบของน้ำมัน เช่น Olive Oil เพราะส่วนประกอบเหล่านี้จะทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนได้ง่าย

การเกิดสิวเป็นเรื่องที่ห้ามได้ยาก เพราะสิวจะมาเมื่อไหร่เราคงไม่สามารถกำหนดได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือการรู้จักดูแลรักษาความงามให้ห่างไกลจากการเกิดสิวด้วยเคล็ดลับทั้ง 5 ข้อที่มาแนะนำกันนี้ ขอแค่คุณทำได้ ก็ไม่ยากเกินไปที่จะดูแลรักษาผิวหน้าให้ห่างไกลจากสิว

คอเลสเตอรอล ที่คุณต้องลด

ดูแลความงามของรูปร่าง ด้วยการลดคอเลสเตอรอล

คอเลสเตอรอล คือ สารตัวหนึ่งที่อยู่ในอาหารมีทั้งไขมันดีและไขมันไม่ดี หากเมื่อไหร่การจัดการในเรื่องอาหาร การออกกำลังกายที่ไม่ถูกต้องก็จะทำให้เป็นไขมันที่ทำให้ผู้คนมีรูปร่างที่ผิดปกติไปจากเดิมหรืออ้วน ด้วยเหตุนี้ เราจึงมาบอกวิธีการลดคอเลสเตอรอลเพื่อความงามของรูปร่างที่คุณไม่ควรมองข้ามไป ซึ่งมีอะไรบ้าง มาดูกัน

ควบคุมอาหารอย่างถูกวิธี

หากได้เปรียบเทียบสมัยปัจจุบันกับสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นคุณแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ซึ่งเป็นยุคสมัยที่บ้านเมืองไม่ค่อยเปิดกว้างมากนัก ก็จะมีการจัดเตรียมเรื่องอาหารแบบเมืองร้อนซึ่งเป็นอาหารที่ไม่ทำให้อ้วน เช่น แกงส้ม แกงไตปลา น้ำพริก ปลาเผา เป็นต้น ส่วนขนมหวานอย่างมากก็จะเป็น ไอศกรีม ลอดช่อง เฉาก๊วย แต่เมื่อวิทยาศาสตร์ได้วิวัฒนาการหรือพัฒนาได้อย่างกว้างไกลจนมีความเจริญมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้อาหารของชาวตะวันตกก็เริ่มแพร่หลายเข้ามาในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น ชีส เนย นม เค้ก ขนมเบเกอรี่ต่าง ๆ จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่เป็นสาเหตุของการเพิ่มอัตราความอ้วน โดยเฉพาะคนที่ชอบรับประทานระหว่างนั่งอ่านวิเคราห์บอลไปพลางๆเนื่องจากอาหารของชาวตะวันตกเหมาะสมกับประเทศเมืองหนาว เป็นอาหารที่เต็มไปด้วยแคลอรี่ซึ่งร่างกายเผาผลาญได้ยาก เมื่อเป็นเช่นนี้จึงไม่แปลกใจเลยว่า คนในประเทศไทยส่วนหนึ่งจึงมีไขมันหรือคอเลสเตอรอลสูง ตามชาวตะวันตกไปด้วย

กรณีที่เป็นไขมันไม่ดีหรือที่เรียกว่า LDL นอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว ยังเป็นไขมันที่ติดกับหลอดเลือดทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ หลอดเลือดในสมองแตก เปราะและตีบ อัมพาต เพราะฉะนั้น จะดีไม่น้อยเลย หากมีการควบคุมอาหาร ด้วยการเริ่มต้นเน้นอาหารมื้อเช้าในปริมาณมาก กลางวันรับประทานน้อยกว่าหรือครึ่งหนึ่งของมื้อเช้า ส่วนมื้อเย็นงดแป้ง ข้าวและน้ำตาล ไม่ว่าจะเป็น ลูกชิ้น ขนมปัง แต่ให้เปลี่ยนเป็นโปรตีนและผัก เช่น สุกี้ วุ้นเส้นที่ประกอบด้วยผัก ปลา หมู ไก่ เนื้อ เพราะจะช่วยลดน้ำหนักอย่างยั่งยืนและดีที่สุด

บริหารร่างกาย 5 วันต่อสัปดาห์

การออกกำลังกาย ช่วยลดคอเลสเตอรอลที่เกิดจากการรับประทานอาหารเข้าไปในร่างกาย โดยเฉพาะอาหารที่เพิ่มคอเลสเตอรอล เช่น หอยนางรม หัวกุ้ง ไข่ปู เครื่องใน ปลาหมึก ของมันของทอด ชีส กะทิ เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการออกกำลังกายในรูปแบบการปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ วิ่ง แบดมินตัน หรืออื่น ๆ ประมาณ 30 นาที เพื่อให้ร่างกายได้ขับเหงื่อ นอกจากจะไม่ทำให้อ้วนแล้ว ยังทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและยืนยาว ห่างไกลการนั่งรถเข็นหรือเป็นผู้ป่วยติดเตียงอีกด้วย

การลดคอเลสเตอรอลด้วยวิธีดังกล่าวข้างต้น เป็นวิธีที่ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ยาลดคอเลสเตอรอล เพราะยาจะไปลดทั้งไขมันดีและไม่ดีออกจากร่างกาย ซึ่งจะเกิดผลเสียตามมาในภายหลังเพราะฤทธิ์ของยาจะไปทำลายผนังเซลล์ทำให้กล้ามเนื้อฝ่อ กล้ามเนื้อลีบ ปวดกล้ามเนื้อในส่วนแขนและขา ยิ่งถ้าได้รับประทานเป็นระยะเวลานานอย่างต่อเนื่องก็จะทำให้ฮอร์โมนเพศชายและเพศหญิงตกอีกด้วย การตั้งใจลดคอเลสเตอรอลด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณประโยชน์ พร้อมการออกกำลังกาย จะทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นแน่นอน และยังจะทำให้คุณมีรูปร่างที่ดี สมส่วน ไร้ไขมันส่วนเกินโดยอัตโนมัติ