การทำธุรกิจเสริมความงามในปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้คนสนใจการทำศัลยกรรมและดูแลผิวพรรณ เพื่อเสริมบุคลิกภาพและเพิ่มโอกาสที่ดีในการทำงาน ประกอบกับมีเทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของท้องตลาด เมื่อเปิดคลินิกความงามก็เท่ากับมีลูกค้ารอใช้บริการมากมาย และยังเป็นธุรกิจที่มีสัดส่วนกำไรสูงด้วย

เรามาดูกันว่าหากคุณต้องการเปิดธุรกิจด้านเสริมความงาม จะต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง

1.มองหาทำเลที่ตั้ง

คลินิกที่ได้รับความนิยมมาก จะอยู่ในทำเลดี ใจกลางเมืองหรือย่านชุมชนที่เดินทางไปมาสะดวก เช่น เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ไม่ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดิน และมีที่จอดรถส่วนตัว หากอยู่ในต่างจังหวัด ก็จะเป็นหัวเมืองใหญ่ เช่น อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ หรือใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา ภูเก็ต เป็นต้น ถ้าได้ทำเลที่ดี แม้จะเสียเช่าพื้นที่สูง แต่ก็ยังเหลือกำไรในการต่อยอดทางธุรกิจหรือขยายสาขาได้อีกมาก

2.ต้องจดทะเบียนเป็นสถานพยาบาล

เราเคยเห็นข่าวการจับคลินิกเถื่อนหรือสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นการดำเนินกิจการคลินิกเสริมความงามต้องศึกษากฎเกณฑ์ต่าง ๆ ทำการยื่นขออนุญาตโดยมีเอกสารรับรองที่ถูกต้องตามกฎหมายครบถ้วนจึงจะไร้ปัญหานี้ ทั้งนี้ศึกษารายละเอียดได้จากเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข

3,ติดต่อเชิญแพทย์ที่มีความสามารถสูงให้มาร่วมงาน

แพทย์ในคลินิกความงามที่มีความชำนาญและมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าดี จะมีผลในทางบวกต่อการกลับมาใช้บริการซ้ำ ๆ และการบอกต่อเพิ่มลูกค้าในวงกว้าง จึงต้องคัดเลือกแพทย์ด้านความงามและผิวพรรณที่ตอบโจทย์คลินิกของคุณให้มากที่สุด ยิ่งได้แพทย์ที่มีความสามารถและประสบการณ์สูงมาร่วมงาน ก็จะทำให้ธุรกิจโตได้อย่างรวดเร็ว

4,ศึกษานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ

นวัตกรรมดูแลผิวพรรณมีการก้าวหน้ามาก รวมถึงอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง ผู้ที่จะเปิดคลินิกความงามจึงต้องติดตามข่าวสาร ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และประสานกับบริษัทที่ผลิตเทคโนโลยีเหล่านั้น เพื่อให้ได้ราคาที่ดีและมีบริการหลังการขายที่น่าประทับใจสำหรับการให้บริการลูกค้าโดยไม่มีปัญหาตามมา

5.วางแผนการประชาสัมพันธ์และโปรโมชั่นที่เหมาะสม

การวางแผนประชาสัมพันธ์ทางสื่อออนไลน์ Facebook, Line และเว็บไซต์ ที่เข้าถึงลูกค้ากลุ่มนักศึกษา วัยทำงาน ฯลฯ มีผลมากต่อการเสริมอำนาจในการแข่งขันทางการตลาดกับแบรนด์คลินิกความงามอื่น ๆ ที่เป็นเจ้าตลาดอยู่เดิม การคิดโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจคู่กับการบริการที่ดีก็ย่อมทำให้มีลูกค้าประจำและลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย

จะเห็นได้ว่า การเปิดคลินิกดูแลด้านความงามให้แก่ลูกค้านั้น มีองค์ประกอบหลายอย่างที่ต้องพิจารณา หากคุณตั้งใจทำอย่างจริงจัง ย่อมได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า และถือได้ว่าเป็นธุรกิจที่มีอัตราการอัตราผลตอบแทนที่สูงและมีความมั่นคงอย่างมากในระยะยาวด้วย

เริ่มต้นปี 2020 ด้วยปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจรอบด้าน พ่วงท้ายด้วยการปิดโรงงานและลดจำนวนพนักงาน และการเลิกจ้างที่ยังเป็นข่าวครึกโครมต่อเนื่อง แต่สำหรับธุรกิจเกี่ยวกับความงาม กลับพุ่งสวนกระแส ยิ่งการขายผ่านสื่อออนไลน์ยิ่งเห็นภาพความคึกคักชัดเจน คาดกันว่าธุรกิจความงามมีการเติบโตไม่น้อยกว่า 9-10% ต่อปี และมีแนวโน้มจะเติบโตต่อเนื่อง แต่สำหรับปี 2020 เทรนด์ของธุรกิจความงามจะมีข้อปลีกย่อยแตกต่างจากปีที่ผ่านมา ๆ ดังนี้

ธุรกิจความงาม ที่มาแรงปีนี้

– ใช้ technology เข้ามาผสมผสานในธุรกิจความงามเป็น Beauty Tech แบรนด์ไหนที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยได้อย่างลงตัวจะกลายเป็นดาวเด่นได้ง่าย ๆ คนที่อยู่ในแวดวงธุรกิจความงามต้องเริ่มมองหาตัวช่วยนี้ และสร้างเป็นนวัตกรรมการดูแลความงามขึ้นมา เช่น การใช้ IoT ออกแบบผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล (personalize Beauty) ผลิตภัณฑ์จะลดความเป็น Mass ลงแล้วเน้นการออกแบบเพื่อแก้ปัญหาให้เฉพาะเจาะจงแต่ละคนมากขึ้น บางค่ายนำปัญญาประดิษฐ์หรือ AI มาช่วยวิเคราะห์ปัญหาก่อนออกแบบสูตรแก้ไขเป็นการเฉพาะ มีการใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) มาช่วยออกแบบการแต่งหน้าเสมือนจริง ช่วยการตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์

– เน้นวัตถุดิบออร์แกนิก แม้ว่าธุรกิจความงามในปี 2020 จะเน้นการใช้ตัวช่วยเป็นเทคโนโลยีล้ำ ๆ แต่สำหรับวัตถุดิบตั้งต้นสำหรับการผลิตตัวผลิตภัณฑ์สำหรับความงามนั้น กลับเน้นไปที่ความเป็นธรรมชาติ ไร้ส่วนผสมของสารเคมี โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์พวกออร์แกนิกนั้น จะได้รับความนิยมสูงมาก

– กลิ่นที่ใช้ใน เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์ความงามจะเน้นใช้กลิ่นตามธรรมชาติ ไม่ใช้น้ำหอมหรือสารเคมี ส่วนใหญ่จะเป็นกลิ่นจากดอกไม้ ใบไม้ และสมุนไพรต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคกำลังตอบรับอย่างมาก

– เน้นการป้องกันมลภาวะ เพราะมลภาวะเป็นตัวทำลายความงามได้อย่างรวดเร็วและหลีกเลี่ยงยากที่สุด ผู้คนจึงหันมาหานวัตกรรมที่ช่วยป้องกันมลภาวะให้สอดคล้องไปกับการดูแลความงามด้วย

– เน้นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับทุกเฉดสีผิว ด้วยการสร้างความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ ให้ทางเลือกอย่างอิสระกับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รู้สึกว่ามีความเท่าเทียม ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์ความงามแบรนด์นั้น ๆ สามารถเอาชนะใจผู้บริโภคได้ไม่ยาก

– เน้นตัวบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์โลกที่มาแรงมาก ๆ ไม่ว่าจะบรรจุภัณฑ์ในรูปลักษณ์ของห่อ ขวดหรือกล่อง ควรเน้นการนำกลับมาใช้ใหม่ (Reuse) เพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและทำลายสิ่งแวดล้อม

– ระบบการค้าออนไลน์ที่เพิ่มความสะดวกในการช้อปปิ้ง และให้โอกาสผู้คนได้เข้าถึงสินค้าได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว ยังคงเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการขยายตัวของธุรกิจความงาม หลายค่ายเน้นการใช้สื่อออนไลน์ในการเข้าถึงผู้คน โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงได้ชัดเจนมากขึ้น

ยิ่งเทรนด์ของธุรกิจความงามในปี 2020 จะเริ่มหันมาลงลึกถึงความเป็นปัจเจกบุคคลมากขึ้นเท่าใด การสร้างสัมพันธ์ทีดีกับลูกค้าเน้นความเอาใจใส่ ดูแลเพื่อให้รู้สึกถึงความพิเศษของแต่ละคน ก็ยิ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นเท่านั้น และสิ่งนี้จะยังอยู่คู่กับธุรกิจความงามต่อไป ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยก็ตาม

ใบหน้าเป็นจุดแรกที่คนจะประทับใจในตัวคุณได้ หากดูแลเรื่องของความสะอาดและการบำรุงอย่างเหมาะสม ก็จะทำให้คุณรักษาผิวหน้าที่สวยใสไว้ได้อย่างยาวนาน

เทคนิคในการดูแลผิวหน้า

1. การล้างหน้าให้สะอาด

การล้างหน้าต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว ไม่ทำให้ดึงน้ำออกจากหน้ามากเกินไปจนผิวแห้งตึง นอกจากนี้ การมีสารเคมีที่ทำให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองเป็นผดผื่น ก็เป็นสิ่งที่ต้องระวัง การล้างหน้าควรจะทำวันละ 2 ครั้ง หากมีการออกกำลังกายด้วย ต้องใช้ผลิตภัณฑ์สูตรเฉพาะสำหรับการล้างหน้าบ่อย เพื่อไม่ให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย

2. การเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงหน้า

สำหรับคนที่มีผิวหน้าแห้ง จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์สูตรที่เป็นเนื้อครีมที่มีความเข้มข้นสูง เพื่อที่จะซึมซาบลงไปในชั้นลึกได้ดี ป้องกันปัญหาริ้วรอยแก่ก่อนวัย ส่วนคนที่เป็นผิวมันและผิวผสม ต้องใช้ผลิตภัณฑ์สูตรเซรั่ม ที่มีเนื้อบางเบาซึมซาบดี ป้องกันการอุดตันรูขุมขน อันเป็นสาเหตุของการเกิดสิวที่วัยรุ่นและวัยทำงานมักเป็นได้

3. การขัดผิว

การใช้เม็ดขัดผิวในผลิตภัณฑ์ทั้งแบบเจลหรือแบบมาสก์ จะมีประโยชน์หากทำสัปดาห์ละ 1 ถึง 2 ครั้ง เพื่อช่วยในการกำจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออก ลดความหมองคล้ำและช่วยทำให้ผิวหลังการขัดหน้าสดใสขึ้น และยังลดการอุดตันของไขมันและสิ่งสกปรกที่จะอุดตันในรูขุมขน อันเป็นสาเหตุสำคัญของการเป็นสิวอุดตันและสิวอักเสบได้

4. การใช้ครีมกันแดด

ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ทุกคนจะต้องทาเป็นประจำ โดยเฉพาะถ้ามีเหงื่อออกจากการออกกำลังกายจะต้องทาซ้ำอีกเพื่อให้เพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิว ทั้งนี้ ควรทากันแดดก่อนการออกจากบ้านอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง และควรกางร่มเมื่ออยู่ในที่ที่มีแดดร้อนจัด เพื่อป้องกันการเกิดฝ้าและผิวหมองคล้ำ

5. การใช้โทนเนอร์ ช่วยกระชับรูขุมขน

สำหรับคนที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผลิตภัณฑ์กลุ่มโทนเนอร์ช่วยในการกระชับรูขุมขนได้ดี จะทำให้ลดโอกาสที่สิ่งสกปรกจะลงไปอุดตันในผิวได้ด้วย แนะนำให้ใช้เป็นประจำวันละ 1-2 ครั้ง จะทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียนขึ้นด้วย

การดูแลผิวพรรณเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องใส่ใจตั้งแต่อายุน้อย เพื่อให้ถนอมผิวสวยให้อยู่คู่กับคุณไปได้อย่างยาวนาน เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกท่านได้แนวทางในการนำไปปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมต่อไป

เรื่องของความงามเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนาอยากมีไว้ครอบครอง ซึ่งมีหลากหลายวิธีที่จะช่วยสร้างให้เกิดขึ้นได้ วันนี้เราขอนำเสนอวิธีสร้างความงามแบบง่ายๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งสามารถทำได้ทุกวัน

สร้างความงามได้ ด้วยตัวเอง

1. งามจากภายในสู่ภายนอก

หลายคนคงจะเคยได้ยินประโยคที่ว่า กินอย่างไร ได้แบบนั้น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เพราะอาหารที่เรากินเข้าไปก็จะถูกย่อยและดูดซึมเพื่อใช้ในการสร้างพลังงานและประโยชน์อื่น ๆ ให้แก่ร่างกาย การกินอาหารที่มีประโยชน์ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ไปด้วย เช่น การรับประทานพวก ผัก ผลไม้ ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายและลดความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ส่วนการกินอาหารที่มีประโยชน์น้อยหรือคุณภาพไม่ดี ก็จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่ดีไปด้วยเช่นกัน ซึ่งมีงานวิจัยได้รายงานไว้ว่า หากสุขภาพของลำไส้ที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบย่อยอาหาร มีความแข็งแรงดี ก็จะส่งผลดีต่อการมีสุขภาพผิวพรรณที่ดีตามมาด้วย

2. ออกกำลังกาย ให้ประโยชน์ได้ครอบคลุม

การออกกำลังเป็นการลดความเสี่ยงของโรคหรืออาการหลาย ๆ อย่างได้ เช่น โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด ภาวะความดันในเลือดสูง เส้นเลือดสมองตีบ เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้อย่างมาก การออกกำลังกายบ่อย ๆ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียดที่จะส่งผลต่อการมีสุขภาพผิวที่ไม่ดีได้เช่นกัน ดังนั้นหากเรากำจัดความเครียดไปได้ สุขภาพผิวก็จะดูดีขึ้นด้วย

3. จิตใจที่ดี นำไปสู่ร่างกายที่ดี

การที่เรามีความคิดในแง่บวกอยู่เสมอจะทำให้เราไม่เครียดง่าย รู้จักปล่อยวาง สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามาได้อย่างง่ายดาย ซึ่งการที่เราไม่เครียดก็จะส่งผลดีต่อร่างกาย ไม่ใช่เฉพาะผิวหนังอย่างที่กล่าวไปข้างต้นเท่านั้น ยังส่งผลดีต่อร่างกายโดยรวมด้วย เพราะความเครียดสามารถก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่จะทำลายเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายได้โดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้นการฝึกให้มีจิตใจที่ดีอยู่เสมอ ก็เป็นทางหนึ่งที่จะสร้างความงามได้แบบง่าย ๆ ใบหน้าก็ดูสดชื่น แจ่มใส มีราศี ใครเห็นก็รับรู้ได้

4. รู้จักความพอดี แค่นี้ก็ดีพอ

ความงามของแต่ละคนอาจมีมาตรฐานไม่เท่ากัน แต่การฝึกความคิดให้รู้สึกว่าความงามแบบธรรมชาติเป็นสิ่งที่ดีและยั่งยืนที่สุดแล้ว ก็จะช่วยให้เรารู้สึกพอดีกับสิ่งที่เป็นอยู่ได้ ถึงแม้สมัยนี้สามารถสร้างความงามได้ง่ายจากการศัลยกรรมหรือการตกแต่งใบหน้าในรูปแบบอื่น ๆ แต่ความงามภายนอกก็เป็นสิ่งที่อยู่กับเราเพียงชั่วคราวเท่านั้น พออายุเพิ่มมากขึ้นความงามเหล่านั้นก็ต้องลดลง แต่ความงามภายในจิตใจเท่านั้นที่จะคงอยู่กับเราได้ตลอดไป

แต่ละคนก็มีความงามในแบบของของตัวเอง หากใครกำลังหาวิธีสร้างความงามให้กับตัวเอง อย่าลืมนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ และการที่ไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร ก็จะทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจที่สุด

ทุกวันนี้เราต้องเผชิญกับมลพิษต่าง ๆ ที่เลี่ยงไม่ได้อย่างมากมายในแต่ละวัน หลายคนจึงพยายามเลือกสิ่งที่ต้องใช้กับร่างกายให้มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด เราจึงขอนำเสนอพืชสมุนไพรใกล้ตัวที่หาได้แบบง่าย ๆ เพื่อช่วยในการเพิ่มความงาม มาดูกันว่าจะมีพืชตัวไหนที่จะช่วยเสริมความงามให้กับคุณได้บ้าง

1. ขมิ้นชัน

ถ้าจะให้พูดถึงสมุนไพรไทยคงขาดพืชชนิดนี้ไปไม่ได้ เพราะขมิ้นชันหรือที่เราเรียกกันติดปากว่า ขมิ้น นั้นเป็นพืชที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป ทั้งในการแต่งสี ประกอบอาหาร ยารักษาโรค รวมถึงใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางด้วย ขมิ้นมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ แก้ผื่นคัน โรคผิวหนังต่าง ๆ รวมถึงฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ ซึ่งนิยมนำมาใช้แบบง่าย ๆ โดยนำผงขมิ้นผสมกับส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น น้ำผึ้ง นมสด เพื่อใช้ในการขัดผิว พอกผิว อีกด้วย

2.มะขาม

มะขามเปียกนอกจากจะใช้ปรุงรสเปรี้ยวในอาหารต่าง ๆ แล้ว เราสามารถนำมะขามเปียกมาเป็นตัวช่วยเพิ่มความงามได้อีกด้วย โดยในมะขามจะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยลดปัญหาผิวได้ดี กรดผลไม้จากธรรมชาติ ที่เรียกว่า AHA ซึ่งจะช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดรอยหมองคล้ำได้ และยังมีวิตามินที่เป็นอาหารผิวอีกหลากหลายชนิดด้วย โดยนิยมน้ำมะขามเปียกมาเป็นส่วนผสมในการช่วยขัดผิว แต่ก็ต้องระวังในการใช้เพราะขัดผิวมากไปอาจทำให้เซลล์ผิวหนังบางเกิดการระคายเคืองได้

3. ว่านหางจระเข้

พืชที่เด่นในเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังต้องยกให้ว่านหางจระเข้ เพราะเป็นพืชที่ปลูกได้ง่าย มีราคาถูก และใช้งานง่ายอีกด้วย โดยนิยมนำว่านหางจระเข้สดมาปลอกเปลือกและใช้เนื้อวุ้นใส ๆ ข้างใน มาใช้ในการเพิ่มความชุ่มชื้น นอกจากนี้ว่านหางจระเข้ยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และมีคุณสมบัติลดจุดด่างดำได้อีกด้วย

4. บัวบก

บัวบกเป็นพืชอีกหนึ่งชนิดที่นิยมใช้ใน เครื่องสำอาง โดยจะได้ยินบ่อย ๆ ในชื่อ centella ที่มาจากชื่อวิทยาศาสตร์ของบัวบกในทางการค้า มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก และยังมีคุณสมบัติที่ดีต่อความงามอีกมากมาย เช่น ลดการอักเสบและการแพ้ ต้านเชื้อราและแบคทีเรีย และสมานแผล เป็นต้น สามารถนำใบบัวบกมาผสมใช้พอกหน้าเพื่อลบเลือนริ้วรอย ยกกระชับผิว ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสได้

5. มะเขือเทศ

พืชอีกอย่างที่เราใช้รับประทานเป็นประจำ แต่ก็มีประโยชน์ในเรื่องของความงามด้วยเช่นกัน โดยมะเขือเทศประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิวหนังและร่างกายเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติต้านเชื้อราและแบคทีเรีย เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง และอื่น ๆ อีกมาก โดยสามารถคั้นน้ำมะเขือเทศหรือจะใช้วิธีฝานมะเขือเทศเป็นแผ่นบาง ๆ มาทาหรือวางบนใบหน้าก็ได้

พืชสมุนไพรใกล้ตัวมีประโยชน์มากมาย หากใครที่เลี่ยงการใช้สารเคมีบำรุงผิวหน้าเพื่อเพิ่มความงาม ก็สามารถนำพืชเหล่านี้ที่ล้วนเป็นพืชที่หาได้ง่ายไปใช้ประโยชน์ได้

ทุกวันนี้ดารานักร้องชื่อดังอย่างเช่น เจนนิเฟอร์ โลเปซ, วิคตอเรีย เบ็คแฮม, นาโอมิวัตส์ และไอคอนสาวสวยอีกมากมายกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ไม่น่าแปลกใจเพราะแต่ละคนชีวิตคลุกคลีอยู่กับศิลปินช่างแต่งหน้า ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และช่างทำผมระดับแถวหน้ามานับสิบ ๆ ปี เมื่อคุ้นเคยแล้วก็มุ่งมั่นแสวงหาความรู้เกี่ยวกับความสวยความงาม เปิดตัวคอลเลคชั่นเครื่องสำอางหลายแบรนด์ ดาราฮอลลีวู้ดที่สาวตลอดกาลอย่าง ดรู แบร์รีมอร์ เป็นหนึ่งในดาราสาวที่สวยไม่สร่าง ทั้งที่อายุ 44 ปีแล้วแต่ดูไม่เหมือนคนอายุหลักสี่เลย เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไรกัน

ดรู แบร์รีมอร์โด่งดังตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 80 เธอควักกระเป๋าลงทุนผลิตเครื่องสำอางแบรนด์ Flower Beauty ที่ไม่ทดลองกับสัตว์ก่อนจำหน่าย เธอเป็นคนสวยแบบสดใส ใครเห็นก็รู้สึกสดชื่น และยังตรงไปตรงมาอีกด้วย สาว ๆ ทั่วโลกจึงมั่นใจและติดตามอินสตาแกรมดูว่ามีกลเม็ดเคล็ดลับอะไรดูแลความงามให้ลุคอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอ มาดูกันว่าวิธีไหนทำตามได้บ้าง

1.สครับใบหน้าเพื่อรักษารูขุมขน ผิวมันทำให้มีรูขุมขนเปิดกว้างและเห็นได้ชัดรอบจมูกและแก้มด้านใน การลดขนาดรูขุมขนไม่ง่ายและไม่รวดเร็วเท่าที่ใจคิด ถ้าไม่มีปัญหาผิวแห้งเกินไป ลองทำสครับสามครั้งต่อสัปดาห์และใช้ครีบบำรุงผิวรอบดวงตาด้วย

2.ดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยให้ผิวสดใสเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล น้ำผักผลไม้เป็นของดีมีประโยชน์และเป็นตัวเลือกแรก ๆ สกัดแล้วดื่มทันที อุดมด้วยวิตามินซีและเบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระบำรุงสุขภาพผิว หน้าใสไม่เหี่ยวย่นก่อนวัย ไม่เพียงเพิ่มความแข็งแรงให้ผิวพรรณเท่านั้น แต่ยังมีผลดีต่อระบบไหลเวียนเลือด บำรุงสุขภาพโดยรวมทำให้เส้นผมแข็งแรงมีน้ำหนัก ดูดกดำเป็นประกาย ช่วยชะลอวัย ดูแลความงามทั่วทั้งร่าง

3.เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ได้ผลจริง ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังมีผลิตภัณฑ์มากมายที่บำรุงผิวอย่างอ่อนโยน เลือกประเภทที่เหมาะกับผิวและใช้อย่างต่อเนื่อง อย่าไปคาดหวังกับผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์รุนแรงที่อาจทำลายโครงสร้างผิวในระยะยาว

4.รู้ว่าเมื่อไรควรจะประหยัดและเมื่อไรควรลงทุน ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมีให้เลือกมากมาย ปกติไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาแพง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณอย่างชาญฉลาด ถ้าชนิดไหนราคาแพงแต่คุ้มค่าอาจจะต้องลงทุนบ้างในช่วงที่ผิวแย่ต้องการการฟื้นบำรุงขั้นสุด แล้วค่อยกลับมาใช้แบรนด์ที่อยู่ในงบประมาณตามปกติ

5.เลือกใช้ครีมกันแดดที่ป้องกันผิวคล้ำแดด ผิวไม่แห้ง และก็ไม่เกิดสิวด้วย เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF สูงและเนื้อครีมเบาบางไม่ทำให้ผิวมันหรือกระตุ้นให้เกิดสิวง่าย เรียนรู้ถึงพลังธรรมชาติของน้ำผึ้งดิบที่ให้ความชุ่มชื่นต่อต้านริ้วรอย ป้องกันสิว และต้านอนุมูลอิสระ การดูแลผิวเป็นทั้งความรู้และประสบการณ์ ต้องทำเองจึงจะรู้ว่าวิธีไหนเหมาะกับตนเอง

ปัญหาเรื่องการรักษาความงามให้คงอยู่กับเราไปยาวนาน หลาย ๆ คนล้วนแสวงหาวิธีการต่าง ๆ มากมาย เพื่อรักษาและดูแลความงามนั้นให้อยู่ได้ยาวนานไม่ร่วงโรยไปตามวัยที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหลายคนมักคาดเดาว่าวิธีการดูแลรักษาความงามนั้นจำเป็นต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเสมอไป เพราะทุกๆคนสามารถดูแลความงามได้ด้วยวิธีการที่ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ดังต่อไปนี้

พักการแต่งหน้าบ้าง ในชีวิตประจำวันนี้ ผู้หญิงหลายคนจำเป็นต้องแต่งหน้าเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจก่อนที่จะออกไปทำธุระนอกบ้าน ซึ่งการกระทำดังกล่าวนับว่าส่งผลร้ายต่อผิวเป็นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อสร้างความผ่อนคลายให้กับผิว คุณควรพักการแต่งหน้าบ้างสักวันในแต่ละสัปดาห์ ในวันนั้นควรล้างทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดจากนั้นก็บำรุงผิวพรรณด้วยเครื่องประทินผิวที่อ่อนโยนเท่านั้น ไม่ต้องแต่งเติมเครื่องสำอางใดๆ เพิ่มเติมอีก

แชมพูขจัดความมัน พยายามไม่ใช้บ่อยๆ ผู้คนที่มีปัญหาผมมัน มักเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมที่สามารถขจัดความมันบนเส้นผมอย่างล้ำลึก ซึ่งหากใช้บ่อยๆ จะกลับกลายเป็นสิ่งที่ส่งผลร้ายต่อเส้นผมได้เป็นอย่างมาก เพราะทำลายน้ำมันตามธรรมชาติที่เคลือบผมให้เงางาม ดังนั้นจึงควรสลับการใช้แชมพูขจัดความมันกับแชมพูอย่างธรรมดาบ้าง และควรเปลี่ยนยี่ห้อแชมพูแลครีมนวดผมบ้าง เพื่อการบำรุงที่แตกต่างกันและเพิ่มผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

ออกกำลังกายบ้าง สุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์และแข็งแรงนั้นเกิดจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเมื่อสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงนั้นสามารถส่งผลต่อความงามของคุณได้โดยตรง ดังนั้นจึงควรหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งมากก็ยิ่งได้ประโยชน์ มีความคล่องแคล่วและดูมีบุคลิกดีจากร่างกายที่สมส่วน ไม่อ้วนลงพุง

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารก็เป็นสิ่งที่ส่งผลต่อความงามได้โดยตรง อาหารที่ดียังสามารถช่วยลดโอกาสการเกิดริ้วรอยต่างๆ บนผิวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ดังนั้นผู้ที่ต้องการรักษาความงามจึงต้องรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระอย่างฟักทอง มะเขือเทศ ปลาแซลมอน และผักใบเขียว

ดื่มน้ำให้มากๆ น้ำคือองค์ประกอบสำคัญของร่างกาย ดังนั้นการดื่มน้ำให้มากๆ จะช่วยรักษาความงามของคุณได้เป็นอย่างดี การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยรักษาผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง และยังช่วยให้ระบบขับถ่ายของร่างกายทำงานได้ตามปกติอีกด้วย

การดูแลรักษาความงามเป็นสิ่งที่ทุกๆ คนสามารถทำได้เอง เพราะเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ยุ่งยากหรือซับซ้อน แต่ก็จำเป็นต้องทำอย่างสม่ำเสมอทุกๆวัน

แต่ละคนย่อมมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันไป ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบไปเสียทุกเรื่อง การที่คนเราให้ความสำคัญกับความงามที่เป็นค่านิยมสมัยใหม่มากเกินไป จึงทำให้มองข้ามคุณค่าในความเป็นตัวเองไป

ในบทความนี้ จึงรวบรวมวิธีที่ช่วยให้ทุกท่านเห็นความงามและคุณค่าของตัวเองมากยิ่งขึ้น ดังนี้

สำรวจว่าตัวเองมีข้อด้อย-ข้อดีอะไรบ้าง

เมื่อส่องกระจก เราจะเห็นจุดที่ชอบและไม่ชอบของตัวเอง เช่น ดวงตาเล็กเกินไป จมูกโตเกินไป ปากหนาเกินไป ฯลฯ การยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้คือตัวตนของเราที่มีมาแต่กำเนิด จะทำให้เรามีความทุกข์น้อยลงและอยู่กับความเป็นจริงได้มากขึ้น

เมื่อเห็นจุดด้อยแล้ว ให้มองที่จุดเด่นหรือข้อดีของตัวเอง เช่น เราเป็นคนยิ้มเก่ง ทำให้ใคร ๆ ก็อยากเข้ามาพูดคุยด้วย หากเรามองหาจุดเด่นในตัวเองและชื่นชมกับมันได้ ก็จะทำให้มองข้ามความสมบูรณ์แบบได้มากขึ้น

พัฒนาจุดเด่นที่มีให้ดีขึ้น

หากเราส่งเสริมให้จุดเด่นที่มีชัดเจนและเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นได้ ก็จะยิ่งทำให้เรามีคุณค่ามากขึ้น ดังตัวอย่างที่กล่าวไปว่า หากเราเป็นคนยิ้มเก่ง เราก็นำสามารถนำความเป็นตัวเองด้านนี้มาใช้ในการทำงานอาสาสมัครเพื่อสังคม ด้านการประชาสัมพันธ์หรือการประสานงาน เพราะจะมีโอกาสที่จะได้รับความสนใจหรือได้รับความร่วมมือจากคนรอบข้างสูง

และยิ่งหากพัฒนาตัวเองให้มีบุคลิกภาพที่ดีและฝึกฝนด้านภาษา ก็มีโอกาสที่จะนำความสามารถนี้ไปประกอบอาชีพที่ก้าวหน้าได้มาก เช่น เป็นล่าม เป็นมัคคุเทศก์ หรือเป็นนักประชาสัมพันธ์ที่เก่งได้ (ปัจจุบันมีอาชีพมากมายที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยความงามของรูปร่างหน้าตา)

มองคนที่ลำบากมากกว่า

การมองและเห็นใจคนที่มีความลำบากมากกว่าเรา จะช่วยให้ลดความสนใจคำวิจารณ์รูปร่างหน้าตาจากคนอื่นได้มากขึ้น จะทำให้เราและมองข้ามการตำหนิของผู้อื่นได้มากขึ้น และควรให้ความสำคัญกับการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง เช่น การมีน้ำใจช่วยเหลือกัน การแบ่งปันประสบการณ์ทั้งด้านดนตรี กีฬา ที่แต่ละคนถนัด ฯลฯ จะช่วยให้ลดการใส่ใจที่รูปลักษณ์ภายนอกได้

ทำบันทึกเรื่องราวแต่ละวัน

ควรมีสมุดบันทึกเล่มเล็ก ๆ เพื่อบันทึกประสบการณ์และคำวิจารณ์ที่สร้างสรรค์จากผู้อื่น เพื่อพัฒนาตัวเองยิ่งขึ้น หากทำเป็นประจำจะทำให้เติบโตในหน้าที่การงานและเป็นที่รักของคนรอบข้างยิ่งขึ้น

ความงามของแต่ละบุคคลไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เพียงรูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถและบุคลิกภาพด้านอื่น ๆ การส่งเสริมจุดดีและนำไปสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นจะช่วยลดความท้อแท้เสียใจกับคำวิพากษ์วิจารณ์จากคนอื่น และทำให้มีความสุขยิ่งขึ้นในทุก ๆ วันได้

การแลดูอ่อนกว่าวัยเป็นยอดปรารถนาของผู้หญิงทุกยุคสมัย แม้ในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีที่ช่วยลดอายุของผิวพรรณและเส้นผมได้ แต่การยืดอายุของสิ่งที่ธรรมชาติให้มาก็ต้องมีการดูแลเป็นประจำด้วยเทคนิคดี ๆ ที่เรานำมาฝากในวันนี้

ความงามเบื้องหลังการแต่งหน้า

การแต่งหน้าให้แลดูอ่อนกว่าวัยทำได้ง่าย ๆ ด้วยการไม่ขีดเขียนลายเส้นที่ตาและปากให้เข้มจัดในเวลาเดียวกัน หากต้องการให้ดวงตาโดดเด่นสามารถใช้เทคนิค smoky eye และลดโทนสีปากให้เป็นสีนู้ดแทน แต่ถ้าต้องการให้ริมฝีปากสวยด้วย ลิปสติกสีแดงสดต้องใช้eye shadow สี นู้ด หรือ earthtone คู่กันแทน

ในการแต่งหน้า ต้องไม่ลืมว่าควรใช้นิ้วนางในการเกลี่ยครีมและคอนซีลเลอร์ เพื่อไม่ให้น้ำหนักมือมากเกินไปจนเป็นตัวสร้างริ้วรอย ในเมื่อผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องแต่งหน้าอย่างน้อยวันจันทร์ถึงศุกร์ การใช้เทคนิคนี้จะช่วยชะลอวัยได้มากทีเดียว และหากเป็นวันหยุดก็ควรพักหน้าจากเครื่องสำอางค์ไปเน้นหนักที่การบำรุงด้วยมาร์กที่เป็นสูตรฟื้นฟูผิวพรรณจะช่วยคืนความชุ่มชื้นและคงความงามให้อยู่ยาวนานขึ้นได้

ความงามเบื้องหลังเส้นผมสลวย

การดูแลความงามจะต้องใส่ใจเรื่องของเส้นผมด้วย แม้ใบหน้าจะดูเด็กแต่เส้นผมที่หยาบกระด้าง แห้งแตกปลาย หรือมีผมขาวแซมจนทำให้ดูทรุดโทรมย่อมไม่ดีแน่ การรักษาความสะอาดของเส้นผมควรเลือกแชมพูสูตรอ่อนโยน หากเป็นผู้ที่มีผมมัน ก็ไม่ควรใช้แชมพูสูตรขจัดความมันเป็นประจำ เพราะจะทำให้เส้นผมกระด้างจากการสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติ และผู้ที่ทำสีผมก็จะมีปัญหาจำพวกเส้นผมแตกปลาย สีผมผิดเพี้ยนได้ด้วย

แนะนำว่าให้ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนสระได้ทุกวันเป็นประจำจะดีที่สุด ควบคุมกับการใช้ทรีตเมนต์หมักเส้นผมสัปดาห์ละหนึ่งถึงสองครั้ง ไม่ทำสีผมบ่อยเกินกว่าสองเดือนต่อครั้ง เพราะมีความเสี่ยงสูงที่เส้นผมจะหลุดร่วงง่าย รากผมอ่อนแอ และทำให้ผมหงอกก่อนวัย เนื่องจากถูกสารเคมีทำร้าย แต่หากมีปัญหาเรื่องสีผมไม่สม่ำเสมอ และต้องย้อมผมเป็นประจำควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น เฮนน่า หรืออัญชัน ที่มีหลายแบรนด์ได้นำมาเป็นวัตถุดิบหลักในการย้อมสี ทั้งไม่ทิ้งสารพิษทำลายหนังศีรษะและเส้นผมในระยะยาวด้วย

การให้ความสำคัญกับการชำระล้างสิ่งสกปรกตกค้างจากการแต่งหน้าและทำผมด้วย ผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติ และอ่อนโยนเหมาะกับสภาพของผิวและเส้นผม จึงมีความจำเป็นที่ ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเสมอหากอยากคงความงามอ่อนกว่าวัยไว้ให้ยาวนานด้วย